1. สามารถวัดรังสี ได้ทั้ง Gamma, X-ray, Beta, และ Alpha
2. มีหัววัดรังสีอยู่ภายนอกตัวเครื่อง (GM Detector)
3. ความแม่นยำในการวัดของเครื่องเท่ากับ +/- 10 %
4. การตอบสนองต่อรังสีอยู่ต่ำสุด 2.35 วินาที่ และ
สูงสุด 12 วินาที
5. สามารถปรับย่านในการวัดความแรงรังสีได้ 3 ระดับ
(x 0.1, x 1, และ x 10 ) โดยมีย่านการวัดความแรงรังสี
อยู่ที่ค่าใกล้เคียง 0 – 100 มิลลิเรินเกนต่อชั่วโมง (mR/hr) หรือ 0 – 1,000 ไมโครซีเวอร์ตต่อชั่วโม(µSv/hr)
6. ขนาดประมาณ 85 (W) x 180 (L) x 83 (H) mm น้ำหนักประมาณ 1 kg (ไม่รวมแบตเตอรี่และหัววัดรังสี)
7. ใช้อุปกรณ์ที่ให้กำลังไฟ (แบตเตอรี่ขนาด AA ) จำนวน 4 ก้อน
8. อุณหภูมิที่ใช้งานอยู่ในช่วง 0 oC - 40 oC
9. ความชื้นใช้งานอยู่ในช่วง 10 % - 80 %
10. มีปุ่ม ON (เปิดเครื่อง), OFF (ปิดเครื่อง), BAT (ตรวจสอบกำลังไฟแบตเตอรี่), และ HV (ตรวจสอบค่าไฟฟ้าศักดาสูง) ของเครื่องอยู่ในปุ่มเดียวกัน
11. มีปุ่ม RESPOND เพื่อปรับการตอบสนองเร็ว/ช้าต่อปริมาณรังสีที่วัด
12. มีปุ่ม AUDIBLE .ในการเปิด/ปิดเสียงในการแจ้งเตือนเมื่อทำการวัดรังสี
13. มีไฟสัญญาณแจ้งเตือนในกรณีแบตเตอรี่ต่ำมาก (ปุ่ม LOW BATT)
14. มีปุ่ม RESET สำหรับยกเลิกค่าที่วัดอยู่ในขณะนั้นเพื่อเริ่มการวัดใหม่ โดยมิเตอร์จะอ่านค่าใกล้เคียงศูนย์
15. มีช่องในการปรับเทียบค่าวัดรังสีให้ได้ค่าตามมาตรฐาน (ช่อง CAL) สำหรับแต่ละย่านการวัดรังสีของเครื่องสำรวจรังสี
16. สามารถทำการปรับเทียบมาตรฐาน (Calibration)ได้โดยไม่ต้องเปิดฝาเครื่อง
17. รับประกันหลังการขาย นาน 1 ปี
18. มีบริการให้คำปรึกษาด้านการวัดรังสี และด้านเทคโนโลยีรังสีต่างๆ
19. เป็นผลงานวิจัยของคนไทย จากภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์เทคโนโลยี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ